ธุรกิจครอบครัว ทำอย่างไรให้ยั่งยืน

ธุรกิจครอบครัว ทำอย่างไรให้ยั่งยืน

ธุรกิจครอบครัว เป็นธุรกิจที่มีหุ้นส่วนเป็นสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดหรือเกินกว่า 50% ของมูลค่าเงินลงทุน วัตถุประสงค์ของธุรกิจครอบครัวคือการรักษาและถ่ายทอดธุรกิจไปยังทายาทรุ่นต่อไป

ข้อดีของธุรกิจครอบครัว ได้แก่

1. รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสมาชิกในครอบครัว ทำให้มอบหมายงานที่เหมาะกับความรู้ความสามารถของแต่ละคน

2. มีการประสานงานที่ดีระหว่างกัน เพราะรู้และเข้าใจกันอยู่แล้ว ทำให้งานดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว

3. มีความทุ่มเทในการทำงาน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มีเป้าหมายอย่างเดียวกันที่จะทำให้ธุรกิจของครอบครัวประสบความสำเร็จและยั่งยืนไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

4. ต้นทุนต่ำ เพราะคนในครอบครัวสามารถที่จะเสียสละผลประโยชน์เพื่อธุรกิจของตัวเองได้ เช่น การทำงานล่วงเวลาโดยไม่รับค่าจ้าง หรือไม่รับเงินเดือนในช่วงที่ธุรกิจมีปัญหาทางการเงิน เป็นต้น

5. มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง เพราะมีความเชื่อใจกันเป็นพื้นฐาน ทำให้ลดทอนขั้นตอนการทำงานหรือการตรวจสอบลง

6. สามารถรักษาความลับของธุรกิจได้ดี เพราะเป็นการทำงานของสมาชิกในครอบครัว

วัฏจักรของธุรกิจครอบครัวประกอบด้วย รุ่นที่ 1 เน้นความทุ่มเทเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด รุ่นที่ 2 การเน้นการเติบโตของธุรกิจ และรุ่นที่ 3 เน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ

บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 500 อันดับแรกของโลก ประจำปี 2564 ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Fortune เป็นบริษัทครอบครัวประมาณ 35% แสดงให้เห็นว่าธุรกิจครอบครัวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ในทางกลับกันความอยู่รอดของธุรกิจครอบครัวกลับลดลงเรื่อย ๆ โดยมีอัตราการอยู่รอดของรุ่นที่ 1 – 4 คือ 100%, 30%, 12% และ 3% ตามลำดับ

เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวมีความยั่งยืนไปจนถึงรุ่นที่ 4 ได้ จำเป็นต้องมีการดำเนินการในเรื่องต่อไปนี้

1. สื่อสารเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจให้ชัดเจน และสร้างความเข้าใจให้ตรงกันในแต่ละรุ่นของครอบครัว

2. จัดทำระเบียบการปฏิบัติงาน เมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นก็จำเป็นที่จะต้องให้การทำงานมีแบบแผนมากขึ้น เพื่อให้สามารถมองเห็นว่าการปฏิบัติงานในขั้นตอนใดที่จำเป็นต้องปรับปรุงให้สัมพันธ์กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

3. กำหนดบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่งงาน เพื่อให้ขอบเขตความรับผิดชอบมีความชัดเจน ไม่มีการก้าวก่ายงานของกันและกัน ไม่บริหารงานโดยขัดแย้งกันเอง

4. กำหนดการจัดสรรผลประโยชน์ที่เป็นธรรมแก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อป้องกันการขัดแย้งโดยเฉพาะเมื่อมีการจ้างผู้บริหารมืออาชีพจากภายนอกเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจด้วย

5. กำหนดแนวทางการสืบทอดธุรกิจ เพื่อให้ผู้ที่จะมารับช่วงต่อเข้าใจการทำงานและธุรกิจของครอบครัว เป็นที่ยอมรับของสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ ลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน

การถ่ายทอดความมั่งคั่งของธุรกิจครอบครัวไปยังลูกหลานนั้น อาจไม่ใช่แค่การที่ลูกหลานเข้ามารับช่วงกิจการต่อ แต่อาจหมายถึงการแปลงความมั่งคั่งให้กลายเป็นเงิน เช่น การขายกิจการ หรือการนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความมั่งคั่งรูปแบบไหนก็ล้วนเป็นการส่งต่อความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว