5 วิธีง่ายช่วยสตาร์ทอัพ ลดต้นทุนทางธุรกิจ

5 วิธีง่ายช่วยสตาร์ทอัพ ลดต้นทุนทางธุรกิจ

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่เพียงผู้บริโภคเท่านั้นที่ต้องรัดเข็มขัด แต่บรรดาสตาร์ทอัพหรือธุรกิจเกิดใหม่ล้วนต้องพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้เหลือน้อยที่สุด บริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อต่อลมหายใจให้อยู่รอดได้จนกว่าสถานการณ์จะเริ่มฟื้นตัว ลดค่าใช้จ่ายในทุกอย่างตั้งแต่งบประมาณของขวัญของพรีเมียมให้ลูกค้าไปจนถึงอุปกรณ์สำนักงาน ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งมีหลายอย่างที่เรากระเหม็ดกระแหม่ใช้เงินน้อยตามอัตภาพ แต่กลับเป็นเรื่องที่ธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนมากมองข้ามไป เช่น ถ้าเราค้นหาจอภาพสำหรับใช้ในสำนักงาน โดยพิมพ์ชื่อผู้ขายคอมพิวเตอร์ ตามด้วยคำว่าลดราคา เท่านั้นก็สามารถประหยัดเงินค่าซื้อจอคอมพิวเตอร์ได้หลักหมื่นบาท ต่อไปนี้เป็น 5 วิธีง่ายที่ช่วยประหยัดได้

รวมการประหยัดต้นทุนแบบง่ายๆ

1.ซื้อของมือสอง ธุรกิจไม่ควรจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่มีราคาแพง ตู้เก็บเอกสารหรืออุปกรณ์สำนักงานอื่น ๆ บ่อยครั้งที่มีเฟอร์นิเจอร์ลดราคา การประมูลซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดหรือบริษัทที่มีทรัพย์สินเหลือจากการใช้งานและต้องการขายทิ้ง จะช่วยประหยัดเงินออมให้ธุรกิจสตาร์ทอัพได้มากทีเดียว

2.ปรับลดต้นทุนการผลิต ธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนมากนำเงินทุนไปจมกับค่าเซ้งร้านหรือค่าเช่าที่ราคาแพงในห้างสรรพสินค้า ต้นทุนค่าใช้จ่ายก้อนโตสร้างแรงกดดันมหาศาล ต้องเร่งหารายได้เร็วกว่าที่สตาร์ทอัพจะทำได้ หลายธุรกิจเริ่มต้นจากการเปิดท้ายหรือห้องครัวที่บ้าน แต่ใช้ไม่ได้กับทุกธุรกิจ หากจำเป็นต้องลงทุนเรื่องสถานที่ ควรจ่ายค่าเช่าราคาพอสู้ไหวไปก่อน จนกว่าจะจำเป็นต้องขยายกิจการค่อยลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพง โดยเฉพาะกิจการที่ไม่ได้มีลูกค้าไปมาหาสู่บ่อยนัก ไม่จำเป็นต้องลงทุนใหญ่โตเลย

3.รับความช่วยเหลือตามจำเป็น นักธุรกิจควรขยันอ่านหาความรู้ ลองศึกษาเรื่องการตลาดออนไลน์ เทคนิคการขายและแนวคิดที่มีประโยชน์ เปิดมุมมองใหม่ให้ตัวเองและจ้างคนมีความสามารถเข้ามาช่วยทำงานให้ อาจจะเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินหรือบริษัทรับทำเว็บไซต์ ปรึกษาขอความช่วยเหลือตามความจำเป็น คุยกันเพียง 2-3 ชั่วโมงเพื่อขอคำแนะนำดี ๆ โดยไม่ต้องจ้างเป็นพนักงานเต็มเวลา

4.แลกเปลี่ยนระบบบาเตอร์ ร้านขายพิซซ่าอิตาเลียนปรับปรุงร้านอาหารและซื้อโฆษณาทำตลาดผ่านทางกลุ่มบาเตอร์ ด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ทำให้ธุรกิจสามารถประหยัดเงินสด เพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด ตลอดจนเพิ่มยอดขายและเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เข้ามาซื้อซ้ำอีกเรื่อย ๆ ผลดีของการบาเตอร์ทำให้ได้พันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้น มีโอกาสต่อยอดธุรกิจทำการแลกเปลี่ยนและสร้างประโยชน์ให้กันและกันได้มากขึ้น

5.ประหยัดค่าใช้จ่าย ธุรกิจสตาร์ทต้องคิดรอบคอบก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าจ่าย ควรเปรียบเทียบทางเลือกทั้งหมดแล้วเลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด แต่ละบาทที่ประหยัดได้จะกลายมาเป็นเงินลงทุนของบริษัทให้ก้าวต่อไปข้างหน้า ยิ่งประหยัดได้มากเท่าไรยิ่งเพิ่มสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงิน ปรับปรุงกระแสเงินสดของบริษัทให้ดีขึ้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กลายเป็นบริษัทชั้นนำในอนาคตอันใกล้