ขาดทุนกำไร

ขาดทุนกำไร ไม่ใช่เรื่องดีนัก

ถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มียอดเข้ามาแบบปังๆถล่มทลายทุกๆเดือน ไม่เคยจะขาดทุนเลย แต่ในทางกลับกัน หากว่าเวลาที่เรามียอดปังปังเข้ามานั้นแล้วเรากลับเอาเงินรายได้ที่เป็นส่วนของกำไรไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือเอาไปลงทุนต่อยอดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยที่มีความคิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ขายใหม่ได้… ไม่เป็นไร เดี๋ยวสิ้นเดือนก็ได้เงินก้อนเข้าอีกแล้ว…

ความคิดเหล่านี้ถือว่าเป็นความคิดที่โง่เขลายิ่งนัก คนทำธุรกิจต่อให้ธุรกิจของตัวเองมีกำไรเดินหน้าไปได้ด้วยดีก็ควรจะระมัดระวังในเรื่องของการต่อยอดลงทุนเพิ่มขึ้น เพราะบ่อยครั้งที่เราเผลอไปลงทุนในสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยและจะขาดทุนตามมาด้วย ตัวนี้ก็คือขาดทุนกำไรนั่นเอง

เหลือเก็บเป็นทุนสำรอง กลับไม่เหลือ

การขาดทุนในกำไรของเรานั้นฟังดูผิวเผินก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เลวร้ายนัก แต่แท้จริงมันถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น ยอดขายของบริษัทเราอยู่ที่เดือนละหนึ่งล้านบาท เราเหลือกำไรเบ็ดเสร็จแล้วอยู่ที่เดือนละประมาณ 100,000 บาท แต่เรากลับเอาเงิน 100,000 ที่เราเหลือนี้ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยด้วยการอัดฉีด promote โฆษณาช่องทางอื่นๆที่เราไม่คุ้นเคยและไม่ยอมศึกษา เพียงได้แต่คาดหวังว่าเดี๋ยวเอเจนซี่ที่รับโฆษณาไปก็คงจะช่วย promote อย่างเต็มที่ อย่างในกรณีตอนตลาดออนไลน์ที่เรามักพบเจอส่วนมาก คือคนที่นิยมจ้างทำเว็บข่าวบอลออนไลน์กันเยอะ จ่ายไปเยอะ ทั้งๆที่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคนที่เลือกจ้างไปนั้นเขาทำได้ดีแค่ไหนและทำถูกหลักการไหม อาจเสียเงินปล่าวก็ได้ถ้าจ้างผิดคน

ผลสุดท้ายแล้ว… พอเราลงทุนไปก็กลายเป็นว่าเราหรือไม่เหลือเก็บเลย อาจจะเหลือเก็บแค่ 10,000 จากที่น่าจะเก็บได้ 100,000 ในจังหวะที่ถึงขาลงของธุรกิจนั้น ยอดขายติดลบ รับประกันได้ว่ากำไรที่เราสะสมมาในแต่ละเดือน หากเอาไปลงทุนเพิ่มตลอดมันจะไม่พอที่จะยื้อธุรกิจของเราให้ก้าวผ่านช่วงขาลงไปได้อย่างแน่นอน เพราะกำไรที่สะสมเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่สูงลิ่วมันเทียบกันไม่ติดเลย

ทุกนาที ทุกเวลา ในการทำธุรกิจ จะต้องเข้าใจ จะต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะเริ่มลงทุนอะไร หากเราไม่มีความเข้าใจ เราอยากลองว่ามันได้ผลดีแค่ไหน ให้ลองแต่งเงินจำนวนน้อยเสียก่อน อย่าพึ่งลงตูมเดียวด้วยการเชื่อคำพูดของเซลล์ที่บอกว่า “ยิ่งจ่ายเยอะก็จะลดราคาให้เยอะ” เพราะมันคือความเสี่ยงที่เราจะเสียเงินก้อนไปทั้งหมดได้เลยในพริบตาเดียว สติอยู่กับตัว วิเคราะห์ก่อนลงทุน คือทางออกของธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้